ความรักของ LGBT มาจากไหน และเป็นยังไงบ้าง ?

ประเดิมโพสต์แรกของ thailgbt แอดมินอาร์ตี้ขอเริ่มที่การเล่าเรื่องง่าย ๆ ว่ากันด้วย “ความรัก” ของเพศที่สาม หรือชาวLGBT กันก่อนว่าเริ่มต้นมาจากไหน? แตกต่างยังไงกับชายหญิงทั่วไป?

ในฐานะที่แอดมินอาร์ตี้พอจะมีเพื่อนอยู่ในแวดวงนี้อยู่บ้าง เคยมีประสบการณ์ด้วยตัวเองมาบ้าง ขอตอบเลยค่ะว่า “ไม่ต่างอะไรกับความรักแบบคนทั่วไปเลย” เป็นไปได้ทั้งออนไลน์ และเป็นไปได้ทั้งจากชีวิตจริงแล้วจู่ ๆ ก็ปิ๊งกันได้

มาดูกันทีละข้อเพื่อให้เข้าใจง่ายกันดีกว่า
1. พบกันในโลกออนไลน์
ในพื้นที่นี้จะเป็นสำหรับคนที่มีเป้าหมายชัดเจนและยังไม่ชัดเจน (คลุมเครือ ไม่แน่ใจว่าตัวเองชอบเพศเดียวกันรึเปล่า?) เพราะแอพพลิเคชันทั้งหลาย เช่น facebook, line, twitter, okcupid จะสามารถระบุทั้งเพศของตัวเอง และระบุเป้าหมายของเพศตรงข้ามที่สนใจได้ บางคนไม่กล้าบอกในพื้นที่ส่วนตัว (เช่น facebook ส่วนตัว) ก็จะเสิร์ชหาแหล่งนัดพบของกลุ่มที่ตัวเองสนใจโดยเฉพาะ เช่น กรุ๊ปหญิงรักหญิง, กรุ๊ปชาวสีม่วง แล้วค่อยแอดหากันเป็นการส่วนตัวเองภายหลัง อาจเพื่อการพูดคุยเพื่อหาเพื่อนที่มีทัศนคติเดียวกันเฉย ๆ หรือไม่ก็พัฒนาความสัมพันธ์ไปด้วย

ที่ดูว่าการนัดพบในพื้นที่นี้ดูเยอะกว่า นั่นก็เพราะว่าสังคมบ้านเราตามความเป็นจริงยังไม่เปิดรับชาว LGBT มากเท่าไหร่นัก (หลายคนยังต้องรักษาภาพพจน์ตัวเองจากอาชีพ, ครอบครัว ที่ค่อนข้างอคติกับเพศที่สาม) บางคนจึงชอบที่จะคุยกันทางออนไลน์ไปก่อนเพื่อความสบายใจส่วนตัว

2. พบกันในโลกของความเป็นจริง
แทบไม่ต่างอะไรเลยกับชายจริงหญิงแท้ที่จะ “ปิ๊ง” กันที่ใดที่หนึ่งแล้วสานสัมพันธ์ต่อ ส่วนใหญ่จะเกิดกับเพศที่แสดงตัวตนชัดเจน (ผ่านการแต่งกาย และรสนิยมที่เปิดเผย) เช่น กะเทย, ทอม, เกย์ ส่วนเพศที่สามที่ดูว่าเป็นกลาง ๆ อย่างเช่น ดี้, เลสเบี้ยน ที่ภายนอกเหมือนเป็นผู้หญิงแท้ ๆ คนหนึ่ง เป็นไปได้น้อยมากที่จะปิ๊งกันในโลกของความจริง (แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เป็นไปได้เลย) ส่วนมากจะเกิดจากสิ่งแวดล้อมหล่อหลอมเอง เช่น ในโรงเรียนหญิงล้วน, ในโรงเรียนชายล้วน, ในคณะที่มีแต่ผู้หญิงด้วยกัน

จำเป็นหรือไม่ที่รักกันเพราะ sex ?
ก็เหมือนกับชายจริงหญิงแท้เช่นกัน บางคู่ก็คบกันเหมือนกับเป็นเพื่อนกันคนหนึ่ง ไม่มีอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้ แต่ที่ดูว่าชาวLGBTจะร้อนแรงกว่า กล้ามากกว่า นั่นก็เพราะว่าความเสี่ยงในภาวะตั้งครรภ์น้อยกว่าชายหญิงทั่วไป ต่อให้เป็นแค่ one night stand กันก็แทบไม่รู้สึกว่าจะเป็นเรื่องที่เสียหาย พร้อมกดปุ่ม restart ได้เสมอ

แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นความรักที่ฉาบฉวยเสมอไป
ถึงชาว LGBT จะชื่นชอบในเพศเดียวกัน แต่ก็เป็นคนช่างเลือกไม่ต่างกับชายหญิงทั่วไป เพราะฉะนั้น ถ้าคนที่เป็นชายจริงหญิงแท้จะเล่นมุกว่าเสียวตูด กลัวโดนปล้ำ นอกจากจะไม่ตลกแล้ว ชาวLGBTยังถือว่าเป็นการแซวที่หยาบคายมาก

รักของ LGBT ไม่ยั่งยืนจริงหรือ?
เรามักจะเคยชินจากการดูหนังดูละคร หรือแม้กระทั่งชีวิตส่วนตัวของชาว LGBT ส่วนใหญ่ว่าเป็นรักที่ไม่ยั่งยืน เดี๋ยวรัก เดี๋ยวเลิก หรือถ้าจะคบกันไปแก่เฒ่าก็เป็นไปได้น้อยมาก เพราะบ้านเรายังไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาเท่าที่ควร ทั้งในส่วนของครอบครัวที่มีแต่ญาติผู้ใหญ่ และในส่วนของที่ทำงานหลายแห่ง

แต่ในความจริงแล้ว ถ้าตามข่าวต่างประเทศ หรือหาอ่านในเว็บบอร์ดแถวหน้าของบ้านเราก็ยังพอมีคู่รัก LGBT ที่คบกันถึงวัยกลางคนหรือวัยแก่เฒ่าอยู่ไม่น้อย ฉะนั้น ลืมไปได้เลยว่าการที่สังคมไม่ยอมรับจะเป็นอุปสรรคสำหรับความรักที่ยั่งยืนเสมอไป ตรงกันข้าม หลายคู่กลับใช้มันมาเป็นแรงผลักดัน สร้างสิ่งดี ๆ ร่วมกัน พิสูจน์ให้คนรอบข้างได้สบายใจตั้งมาก หนังละครที่เราเคยชินว่าตอนจบของชาวLBGTจะเป็นโศกนาฏกรรมหรือไม่ก็เป็นเรื่องตลก จึงเป็นเรื่องที่ลืมไปได้เลย พวกเขาก็เหมือนคนทั่วไป ใช้ชีวิตปกติธรรมดา ไม่หวือหวา และมีความสุขเท่าที่จะมีได้

เป็นไปได้แค่ไหนที่คนที่เคยรักเพศเดียวกันจะหันมารักเพศตรงข้ามบ้าง ?
ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดหรือน่าขำแต่อย่างใด ถ้าจะมีข่าว, รายการทอล์กโชว์ หรือกระทู้เด็ดเปิดเผยถึงเรื่องที่เกย์หันมารักผู้หญิง, เลสเบี้ยนมีแฟนคนต่อมาเป็นผู้ชาย, ดี้ตกลงแต่งงานกับผู้ชาย นั่นก็เพราะความรักเป็นเรื่องของ “หัวใจ” ล้วน ๆ ไม่จำเป็นว่าชาวLGBTจะต้องรักเพศเดียวกันเสมอไป และไม่ใช่เรื่องที่จะมาตำหนิว่าพวกเขาเป็นพวกเห็นแก่ตัว มักมาก หลายใจ (คนเห็นแก่ตัวก็คือ คนที่เห็นว่าเรื่องหัวใจเป็นเรื่องสนุก ทั้งที่รู้ว่ามีคนอื่นกำลังเดือดร้อนอยู่ด้วย) ถ้าคุยกับใครแล้วรู้เรื่อง เข้ากันได้มากที่สุด ก็พร้อมที่จะใช้ชีวิตไปด้วยกันยาวนาน ความรักของพวกเขาจึงค่อนข้างเป็นความรักแบบ “ไร้เพศ” เสียมากกว่า

สรุปแล้ว ความรักของชาว LGBT ก็ไม่ต่างอะไรกับชายจริงหญิงแท้ค่ะ ที่เราเห็นว่าพวกเขาแปลกแยก เป็นอีกพวกหนึ่งไปเลย นั่นก็เพราะการแสดงออกของบางคนต้องการจะชัดเจนไปเลยว่ามีรสนิยมแบบใดโดยเฉพาะ สุดท้ายแล้วความรักไม่ว่าเพศไหนก็เป็นเรื่องของหัวใจเท่านั้น ถ้าใจไม่ตรงกัน ต่อให้เป็นผู้หญิงด้วยกัน หรือเป็นผู้ชายเหมือนกัน ก็ไม่มีทางจะรักกันได้แน่นอน

About thailgbt 52 Articles
พูดคุยเกี่ยวกับชาวLGBTบ้านเราแบบง่าย ๆ สบาย ๆ อ่านเข้าใจง่าย ศัพท์ไม่ยาก ไม่วิชาการเกินไป แชร์จากประสบการณ์บ้าง จากสื่อที่รู้เห็นมาบ้าง

Be the first to comment

Leave a Reply