สิ่งหนึ่งที่เรามักสงสัยกันก็คือ ความรักของชาวLGBTเขายืนยาวกันสักแค่ไหนกัน ในเมื่อสังคมรอบข้างก็ไม่ค่อยยอมรับสักเท่าไหร่, กฎหมายก็ยังไม่มีพื้นที่มากพอ อีกทั้งลูกก็ยังไม่มีด้วยกันอีก พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าจะคบกันระยะยาวเป็นไปได้ยากมาก เพราะหลักประกันแทบจะไม่มีรองรับเลย
คำตอบก็คือ ก็รักกันไปแบบไม่ได้คาดหวังอะไรกันมากนั่นแหละค่ะ มีความสุขเท่าที่พอจะมีให้กันได้ เหมือนกับชายหญิงคู่ที่เขาแต่งงานแล้วไม่สามารถมีลูกได้อย่างนั้นแหละ
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่วางแผนอะไรร่วมกันเลยนะคะ ในขณะที่รอกฎหมายให้ความเป็นธรรมถึงสิทธิของLGBTให้เท่าเทียมกับชายหญิงที่สุด ก็มุ่งเก็บตังค์ สร้างฐานะร่วมกันเหมือนกับคู่สมรสชายหญิงทั่วไปยังไงยังงั้นเลย (เรามักจะสังเกตเห็นได้ว่าคู่รักLGBTหลายคู่ที่กินอยู่ด้วยกัน หน้าที่การงานดีมากกกก ไม่เพียงแต่เพื่อลบคำสบประมาทของคนที่ยังอคติต่อพวกเขา แต่เงินที่สูงตามหน้าที่การงานนี้จะช่วยรองรับความสบายของกันและกันได้ด้วย)
และก็ใช่ว่าการไม่มีลูกได้ตามธรรมชาติจะเป็นปัญหาใหญ่ของชาวLGBTเลย เพราะพวกเขาก็มีวิธีสร้างความสุขร่วมกันได้
– บางคู่ เลือกที่จะเลี้ยงสัตว์แทนการมีลูกที่เป็นคน
– บางคู่ ก็ต้องการที่จะมีลูกเป็นคนจริง ๆ จึงมีการจ้างแม่อุ้มบุญ อย่างเช่นน้องคาร์เมนของคู่เกย์ที่เป็นข่าวในขณะนี้ หรือไม่ก็รับเด็กมาอุปการะร่วมกัน บางคู่ก็มีลูกติดมาก่อนด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่รู้สึกว่าการเลี้ยงดูจะเป็นปัญหา (ลองศึกษากรณีแบบนี้ได้ที่ พ่อแม่หลากหลายเพศ https://www.facebook.com/thailgbtiparents )
– บางคู่ก็ไม่ต้องการจะมีใครเลย ขอแค่ดูแลด้วยกันสองคนแบบนี้ไปจนแก่เฒ่าก็พอใจแล้ว
ดังนั้น คู่รักLGBTที่อยู่กันไม่ยืดที่เราเห็นกันในหนังละครโดยทั่วไปมีอยู่จริงค่ะ น่าจะเป็นเพราะว่าต่างคนต่างไม่มีทัศนคติการใช้ชีวิตระยะยาวร่วมกันเสียมากกว่า เช่น ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่พร้อมที่จะรักเพศเดียวกันไปจนแก่, บางคนยอมรับว่าเป็นLGBTแต่พึงพอใจที่จะใช้ชีวิตโสด, บางคนก็แค่รักเพศเดียวกันในวัยเรียนตามกระแสวัยรุ่นเฉย ๆ
หรือในทางกลับกัน ถ้าลองถามคู่LGBTบางคู่ที่กำลังรักกันอยู่ในปัจจุบัน ก็ใช่ว่าจะเป็นทุกคู่เสมอไปนะคะที่จะตอบได้ชัวร์ว่าจะรักกันไปถึงขั้นแต่งงานด้วยกันหรือไม่ พวกเขาอาจจะต้องการแค่ทำทุกวันให้มีความสุขที่สุดก็เท่านั้น อนาคตยังเป็นเรื่องไกลตัวมาก ยิ่งปัจจุบันยังมีภาระหลายอย่างที่ต้องสะสาง เช่น หน้าที่การงานที่ยุ่งเหยิง, ครอบครัวที่ยังไม่ค่อยยอมรับ การตกลงปลงใจใช้ชีวิตแบบบ้านเดียวกันยิ่งแทบจะนึกไม่ออกเลย
เพราะฉะนั้น ถ้าจะถามเคล็ดลับว่ารักกันยังไงได้ยืดยาว (ไม่ว่าจะคู่รักที่มีความสัมพันธ์แบบใดก็ตาม) ก็พอจะหาคำตอบได้จากการกระทำของพวกเขาที่มีให้กันค่ะ แต่ถ้าจะถามถึงอนาคต ในโลกนี้ไม่มีใครรู้หรอกค่ะว่าอะไรจะเกิดขึ้น ต่อให้ไปหาหมอดู เราก็ยังไม่รู้เลยว่าคำทำนายจะเป็นจริงรึเปล่า เผลอ ๆ ลืมไปแล้วด้วยซ้ำ เพราะมันไม่สำคัญเท่าปัจจุบันที่ดีงามจริง ๆ
ความสุขไม่จำเป็นว่าจะต้องมีพยานรักก็ได้ แค่เป็นนามธรรมที่ใจสื่อถึงกันได้เสมอ นั่นก็เรียกว่าความสุขแล้ว : )
Leave a Reply