บางคนอาจจะมีข้อสงสัยนะคะว่า เอ๊ะ! คนเราจะมีสิทธิรักใครได้หลายคนในครั้งเดียวกันรึเปล่า? โดยเฉพาะในชาวLGBT เช่น ผู้หญิงคนหนึ่งเป็นได้ทั้งดี้และผู้หญิง ผู้ชายบางคนที่แต่งงานแล้วก็เพิ่งค้นพบตัวเองว่าเป็นเกย์
ตามธรรมชาติแล้ว ไม่ว่าจะเพศไหนก็ตาม คนเรามีสิทธิพึงพอใจอะไรได้หลายอย่างพร้อมกันค่ะ เช่น ในหมวดสัตว์เลี้ยง บางคนก็ชอบทั้งกระต่าย, สุนัข, แมว ไม่จำเป็นว่าจะต้องชอบสัตว์ตัวใดตัวหนึ่งเสมอไปค่ะ
ในเมื่อความชอบ = รสนิยมอย่างหนึ่ง
เพราะฉะนั้น ความพึงพอใจในเพศอะไร ก็เป็นรสนิยมอย่างหนึ่งค่ะ
เพราะฉะนั้น ผู้หญิงคนนึงก็เป็นไปได้ที่จะไม่ชอบเฉพาะผู้ชายเพียงเพศเดียวเสมอไป บางคนก็ชอบทั้งผู้ชายและทอม บางคนก็ชอบผู้ชาย-ทอม-ผู้หญิงด้วยกัน ในทางกลับกัน ผู้ชายบางคนก็อาจไม่ได้ชอบผู้หญิงเพศเดียวเสมอไป บางคนอาจจะชอบได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
ลักษณะแบบนี้ที่กล่าวมา ส่วนใหญ่คือ “ไบเซ็กชวล”ค่ะ คือ ชอบทั้งเพศเดียวกันและเพศตรงข้าม ชายก็ได้ หญิงก็ได้ ขอให้มีใจตรงกันก็พอ
แต่ … การชื่นชอบที่หลากหลาย ไม่ได้แปลว่าจะหลายใจตามนะคะ ตราบใดที่ยังรักเดียวใจเดียว รักทีละคน ไม่ได้คบซ้อนไปพร้อมกันหลายคน ก็ยังถือว่าเป็นคนที่ยังพอน่าคบหา ไม่น่าเกลียด
ผู้หญิงเคยเป็นดี้มาก่อน พอเลิกกับแฟนที่เป็นทอมแล้วมาคบผู้ชาย ก็ไม่ถือว่าผิด
ผู้ชายที่แต่งงาน มีลูก เพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นเกย์ในภายหลัง จึงขอแยกทางกับภรรยา ก็ไม่ผิดเช่นกัน ไม่ว่าเขาจะยังส่งเสียเลี้ยงดูลูกอยู่ตามเดิม หรือภรรยาขอเป็นฝ่ายเลี้ยงดูเพียงผู้เดียวก็ตาม (เรื่องการเลี้ยงดูลูก แล้วแต่ตกลงกันค่ะ ไม่เกี่ยวว่าคนที่รับผิดชอบความเป็นพ่อตลอดรอดฝั่งจะเป็นคนดีเสมอไป)
แต่ในมุมกลับกัน
ถ้าผู้หญิงที่เป็นดี้คบกับทอมพร้อมกับที่คบผู้ชายด้วย
หรือผู้ชายที่แต่งงาน รู้ว่าตัวเองเป็นเกย์แต่ก็ยังคบซ้อน เพราะไม่กล้าบอกภรรยาโดยตรง
แบบนี้ถือว่าผิดค่ะที่ไม่เลือกคนใดคนหนึ่ง เพราะท้ายที่สุดแล้วความเดือดร้อนไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเราเพียงอย่างเดียว ทุกคนที่เกี่ยวข้องก็ได้รับความเดือดร้อนด้วยเช่นกัน
สรุปแล้ว คนเรามีสิทธิพึงพอใจใครได้ทั้งนั้นค่ะ ไม่ว่าจะเพศเดียวกันหรือเพศตรงข้ามกันก็ตาม แต่ถ้าต้องคบ ขอให้คบทีละคนดีจะที่สุด เมื่อใดก็ตามที่คบซ้อน มีพฤติกรรมแบบ “ชู้” อย่าโทษที่ความหลากหลายทางเพศอย่างเดียวค่ะ มันเป็นนิสัยส่วนตัวที่ไม่ว่าเกิดกับใครก็ไม่ดีทั้งนั้น ใช่ว่าจะเป็นเฉพาะชาวLGBTไปซะกลุ่มเดียวเสมอไปค่ะ
Leave a Reply