คนเราเลือกเกิดไม่ได้ และถ้าเลือกจะเป็นอะไรก็ไม่สามารถบังคับใจกันได้เช่นกัน ดังนั้น การจะบีบบังคับให้คนหนึ่งเลิกรักเพศเดียวกัน เพียงเพราะกลัวเขาจะไม่มีความสุขในอนาคต กลัวว่าเขาจะไม่ได้รับการยอมรับในสังคม มันก็ดูจะใจร้ายไปหน่อยที่ไม่เคารพการตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิต… ในเมื่อเขาเลือกแล้ว เราก็ต้องปล่อยให้เขาเป็น และยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น แม้จะไม่เข้าใจเลยก็ตาม
บางทีแล้วการคิดว่าใครสักคนเลือกที่จะเป็นเกย์, กะเทย, เลสเบี้ยน, ไบเซ็กชวล, ทอม, ดี้ แล้วจะไม่มีความสุขในชีวิต มันก็เป็นเพียงความคิดเห็นในด้านของเราที่แคบไปหน่อย อีกอย่างคือ… เราไม่ได้เป็น รู้ได้อย่างไรล่ะว่าเขาไม่มีความสุข ?
บางทีเรานั่นแหละคิดไปเอง ทุกข์ไปเอง แต่พวกเขากลับค้นพบความสุขด้วยตัวเองมากกว่าเราเสียอีก
และนี่ก็คือเคล็ดลับความสุขในแบบฉบับ LGBT
- เข้าใจและยอมรับในสิ่งที่เป็น
LGBTทุกคนล้วนแต่ต้องเจอกับผู้คนที่ไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะคนในครอบครัวหรือคนนอกก็ตาม สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือ ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นให้ได้ และเข้าใจทุกคนเสมอ ในเมื่อมันยากมากที่จะให้คนอื่นมาทำความเข้าใจและยอมรับ ก็ต้องเริ่มที่ตัวเองนี่แหละง่ายที่สุด
- สร้างกำลังใจให้กับตัวเอง
บอกตัวเองเสมอว่าการเป็นLGBTไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายหรือแปลกแยกไปจากชายหญิงทั่วไป ถึงฉันเป็นLGBTก็มีความสามารถไม่แพ้คนอื่น และบางทีที่คนอื่นดูถูกเอาไว้ นั่นคือแรงผลักดันชั้นดีที่ทำให้ประสบความสำเร็จกว่าคนอื่นหลายเท่าตัว !
- ต่อให้คนอื่นในLGBTจะเป็นอย่างไร ฉันก็เป็นฉันแบบนี้
ไม่หวั่นไหวง่ายกับกระแสอื่นในกลุ่มเดียวกัน ถึงคนอื่นจะสำส่อน, ถึงบางคนจะออกตัวแรง, หรือการที่ฉันเป็นฉันแบบนี้ แม้แต่LGBTด้วยกันบางคนยังรู้สึกหมั่นไส้ ฉันก็ภูมิใจในตัวตนฉันเสมอที่อย่างน้อยมันก็คือตัวจริง ไม่ได้เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน
- ฉันมั่นใจว่าฉันก็มีคนรอบข้างที่ดีไม่แพ้ไปกว่าคนอื่น
โลกของการเป็นLGBTไม่มืดถึงกับขนาดไม่มีใครคบเลย อย่างน้อยต้องมีเพื่อนสนิท, เพื่อนร่วมงาน, คนในครอบครัว หรือใครก็ตามที่พร้อมจะพูดคุยและรับฟังกันได้อย่างสบายใจ ไม่รังเกียจกัน มันต้องมีอย่างน้อยสักคนแหละที่เป็นเหมือนดาวเหนือของชีวิต !
- ฉันมั่นใจว่าฉันทำหน้าที่ในส่วนต่าง ๆ ได้ดีพอ
นอกจากการมีคนที่ยังรัก ยังเข้าใจเคียงข้างกันหลายคน การเป็นลูกที่ดี, เป็นพนักงานที่ดี, เป็นพี่ที่ดี ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ชาวLGBTรู้สึกภูมิใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าชายจริงหญิงแท้ การเป็นLGBTไม่ใช่สิ่งที่จะมาบั่นทอนหน้าที่ของมนุษย์ที่พึงหรอกนะ !
- ถึงฉันจะไม่สามารถมีลูกได้ แต่ฉันก็สามารถเลี้ยงเด็กคนหนึ่งได้เติบโตเป็นคนดีมีคุณภาพได้
ไม่ว่าจะรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมหรือเลี้ยงเด็กที่เกิดจากญาติพี่น้อง การเป็นLGBTไม่ใช่อุปสรรคที่จะทำให้ความสามารถในการดูแลใครลดน้อยลงไปเลย เพราะความสามารถมันคนละเรื่องกับเพศ แต่มันขึ้นกับหัวใจความเป็นมนุษย์ต่างหาก
- ฉันก็มีความรักที่ยั่งยืนได้เหมือนคนทั่วไป
ยังมีอีกหลายคนที่ยอมรับและพร้อมจะใช้ชีวิตดูแลกันไปนาน ๆ โดยไม่รังเกียจกัน ไม่จำเป็นแต่อย่างใดที่จะต้องคิดมากกับสิ่งที่คนอื่นพูด หรือคิดไปเองว่ารักแท้มันไม่มีจริง แค่ภูมิใจในตัวเอง ภูมิใจในการทำหน้าที่แต่ละส่วนได้ลงตัวดี แค่นี้ก็พอจะเป็นเสน่ห์ที่ต้องตาใครบางคนให้เข้ามาเป็นคู่ชีวิตแล้ว
- ทำไมฉันจะต้องสนใจเรื่องไม่จริงมากกว่าคนที่คอยให้กำลังใจ
เป็นธรรมดาที่LGBTมักจะเป็นเป้าสายตาให้คนอื่นคอยวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกปาก แต่ในเมื่อพวกเขาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับชีวิตเลย หนำซ้ำเรายังมีคนอีกมากที่ยังชื่นชม ให้กำลังใจ ทำไมจะต้องแคร์ล่ะ? ใช้ชีวิตแบบเริ่ด ๆ เชิ่ด ๆ ตามแบบฉบับของตัวเองต่อไปจะดีกว่า คำนินทาก็แค่คำนินทา ไม่ควรค่าจะเก็บมาคิดให้เปลืองพื้นที่เปล่า ๆ … ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เดี๋ยวมันก็พัดผ่านไป พรุ่งนี้มะรืนนี้ ฉันก็ยังภูมิใจในตัวตนของตัวเอง และรู้สึกดีกับคนที่ยังรักและให้กำลังใจกันเสมอ ต่อให้ฉันต้องตาย ฉันก็จะตายด้วยความอิ่มใจดี
ก้อจริงนะ พวกชะนีหลายคนชอบวีนเหวี่ยง เมคเรื่องใส่ร้าย เหมือนมีปมด้อยประเภทเตี้ย อ้วนหรือดำไรเงี๊ยะ
เขียนได้ดีมาก อยากให้รุ่นน้องๆ lgbtวัยเรียนได้อ่านกัน จากประสบการณ์ส่วนตัว ความสำเร็จในการเรียนและการทำงาน เป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้ทุกคนไม่กล้าดูถูกสบประมาท และหันมานับถือในตัวเราได้อย่างแท้จริง คนที่ทำงานเก่ง โปรเฟชชันนอล และอัธยาศัยดี ต่อให้หน้าตาหรือเพศอะไรจะดูดีขึ้นมาทันที เพราะฉะนั้น เน้นพัฒนาตัวเองอย่างเดียวเลยไม่ต้องไปแคร์คำพูดหรือกระแสจากคนอื่น จะเป็นการสร้างเกราะและหลักยึดเหนี่ยวที่ทรงพลังที่สุด