ถึงแม้ว่าLGBTจะเป็นเพียงรสนิยมส่วนบุคคล ไม่ใช่โรคร้ายแรงที่ต้องได้รับการรักษา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเลือกที่จะเป็นLGBTต้องอาศัยจิตที่ค่อนข้างแข็งแกร่งเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง
และถึงแม้ว่ายังไม่มีการฟันธงว่าเพศใดมีการฆ่าตัวตายมากกว่ากัน ระหว่างชาย หญิง และLGBT (บางคนก็ไม่ได้เคยบอกใครเลยว่าเป็นLGBT ตอนตายจึงคนภายนอกจึงเห็นเป็นเพียงแค่ผู้ชาย/ผู้หญิงคนหนึ่ง) แต่จากบริบทสังคมเท่าที่เรารู้กันก็พอจะเดาไม่ยากว่าLGBTมีภาวะเสี่ยงมากกว่า เพราะมีความกดดันสูงกว่า
ปัจจัยอะไรบ้างล่ะที่ทำให้LGBTเกิดความกดดันจนฆ่าตัวตาย?
- ความคาดหวังจากคนในครอบครัว : ครอบครัวLGBTรับไม่ได้ที่ลูกรักเพศเดียวกัน บางครอบครัวอาจปล่อยให้เลยตามเลย บางครอบครัวอาจตัดหางปล่อยวัด แต่ก็ไม่น่าเป็นห่วงเท่าบางครอบครัวที่บีบบังคับให้ลูกอยู่ในกรอบตามเพศกำเนิด เช่น จัดงานแต่งงานแบบคลุมถุงชน, ยอมแม้กระทั่งให้คู่หมั้นล่วงละเมิดทางเพศเพื่อให้เป็นชาย/หญิงตามปกติ LGBTบางคนที่จิตใจแกร่งก็จะสามารถผ่านพ้นเหตุการณ์ไปได้สวย ๆ แต่LGBTบางคนที่ไม่มีทางเลือก จำเป็นต้องฆ่าตัวตายเพื่อหนีโลกที่(แม้กระทั่งคนในครอบครัว)ไม่ยอมรับตัวตนของเขา
- ความน้อยใจในโชคชะตาชีวิต : LBGTบางคนต้องดิ้นรนชีวิตทุกอย่างเพื่อหวังว่าการประสบความสำเร็จสักเรื่องหนึ่งจะทำให้ชีวิตด้านอื่น ๆ ดีขึ้นตามลำดับ แต่เมื่อคาดหวังไว้สูง ก็เป็นธรรมดาที่จะต้องเจ็บหนัก ไม่มีภูมิต้านทาน จนต้องมานั่งน้อยเนื้อต่ำใจว่าชีวิตของLGBT(ในแบบฉัน)มันช่างน่าอาภัพนัก ไม่มีอะไรดีสักอย่าง พอสู้จนไม่รู้จะสู้ยังไงแล้ว การฆ่าตัวตายจึงเป็นอีกทางเลือกที่หวังว่าจะช่วยให้พ้นทุกข์ไปจากโลกใบนี้ซะ
- ความรัก : เป็นสาเหตุที่สำคัญสาเหตุหนึ่งของการฆ่าตัวตายไม่ว่าเพศใดก็ตาม แต่ที่ดูเหมือนว่าLGBTจะฆ่าตัวตายเพราะสาเหตุนี้เป็นหลัก นั่นก็เพราะชีวิตของLGBTหลายคนยึดมั่นในคนรักมากกว่าคนในครอบครัว(ก็ในเมื่อคนในครอบครัวยังผลักไสไล่ส่ง ใครดีกับฉัน ใครรักฉัน ฉันก็ดีและรักคนนั้นเป็นพิเศษอยู่แล้ว) แต่พอทุกอย่างไม่ได้ดั่งใจ ลืมไปว่าคนเรามีรักก็ต้องมีเลิก ก็เป็นธรรมดาที่จะรู้สึกว่าเหมือนขาดหลักยึด เหมือนโลกถล่มไปต่อหน้า ซึ่งไม่มีประโยชน์อันใดที่จะมีชีวิตอีกต่อไป ในเมื่อคนรักกันยังทำกันได้ลงคอ
- หนีความผิด หนีโรคร้าย : LGBTบางคนอยู่กับคำว่าperfectionismตลอดเวลา ทุกอย่างที่ทำไม่เคยมีคำว่าพลาด พอพลาดในครั้งหนึ่งจึงเหมือนว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่โตมาก หาทางออกสำหรับปัญหาใหญ่นี้ไม่เจอ รับไม่ได้ที่ตัวเองจะต้องเป็นคนโชคร้าย ในกรณีนี้เป็นไปได้น้อยมาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เป็นไปได้เลย
เรื่องของจิตใจสำคัญพอกันกับเรื่องของสุขภาพกาย ถ้าจิตเราป่วย กายเราก็ป่วยตามได้ อย่ามองว่าปัญหาของคนอื่นเป็นเรื่องเล็กสำหรับเรา บางทีเขาอาจต้องการความช่วยเหลือแต่ไม่มีเพื่อนคุย ไม่รู้จะเริ่มยังไง สำคัญที่สุดก็คือคนใกล้ตัวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือคนในครอบครัว เสียสละเวลามารับฟังกันสักนิด ดีกว่าเสียชีวิตคนหนึ่งไปตลอดกาลนะคะ : )
“LGBTบางคนที่จิตใจแกร่งก็จะสามารถผ่านพ้นเหตุการณ์ไปได้สวย ๆ”
มีด้วยเหรอนี่ ถ้ามี ก็คือจริงๆเป็นไบเซกช่วล ก็เลยโอเค หรือบางคนอยู่ได้ แต่เก็บกดไประเบิดตอนแก่ เห็นในหนังมีเยอะเลยพวกรุ่นพ่อรุ่นแม่ที่มักจะต้องใช้ชีวิตแอบๆกัน พอแก่ลูกโตแล้วก็หย่า หรือบางคนเผลอไปมีชู้ เค้าว่ากันว่าการจับแต่งงานแบบนี้น่าสงสารทั้งตัวlgbtเอง ทั้งคนที่มาแต่งงานด้วย ทั้งลูกอีก เป็นการสร้างบาปกับคนสามคนเลย