ไอดอลของLGBTมีใครบ้าง?

ไม่เพียงแต่เพื่อน(ทั้งในวงการและนอกวงการLGBT)เท่านั้นที่LGBTรักและนับถือเป็นพิเศษพอกันกับคนในครอบครัว การมีไอดอลสักคนหนึ่งก็สำคัญในชีวิตของพวกเขา เพราะอย่างน้อยในขณะที่เพื่อนไม่ว่างจะรับฟังปัญหา ก็ยังพอมีผลงานของใครบางคนไว้บรรเทาทุกข์ มีแนวทางชีวิตของใครสักคนไว้เป็นต้นแบบไม่ให้ไขว้เขว หรือในขณะที่คิดอะไรไม่ออก ได้เปิดโซเชียลอ่านเรื่องราวของคนที่ชอบ ก็ยังพอจะได้กำลังใจ ได้ไอเดียอะไรกลับไปบ้าง

 

เคยสังเกตมั้ยคะว่าLGBTส่วนใหญ่มักจะมีขุ่นแม่ขุ่นเจ๊เป็นดารา, นักร้อง หรือเซเลบอะไรก็ตามอยู่ในใจอย่างน้อย 1 คนเสมอ หรือไม่ก็ถ้าเอ่ยชื่อออกมาเป็นเซตหนึ่ง คนทั่วไปก็พอจะเดาได้ทันทีว่าคนนี้เป็นLGBTใช่ป่ะ?

 

ทำไมต้องเป็นเช่นนั้น? และพวกเขามีไอดอลเป็นใครกันบ้าง? แอดมินอาร์ตี้ขอรวบรวมเป็นหมวดหมู่ก็แล้วกันค่ะ เพื่อง่ายต่อการทำความเข้าใจ อาจมียกตัวอย่างบ้างแต่คงไม่หมดนะคะ เพราะเดี๋ยวจะยาวเกินไป

 

  1. ศิลปินหญิงต่างประเทศระดับตำนาน : เช่น วิตนีย์ ฮูสตัน, มารายห์ แครี่, มาดอนน่า, คริสตีน่า อากีเร่ล่า พวกเธอล้วนแต่เป็นดีว่าที่มีเสียงทรงพลังอย่างสูง เหมาะสำหรับการปลดปล่อยอินเนอร์ได้อย่างเต็มที่เวลาที่รู้สึกทุกข์ใจ อึดอัด อีกทั้งการแสดงที่ค่อนข้างมือโปร เอาอยู่ LGBTบางคนจึงไม่เพียงแต่เป็นผู้ฟังเพียงอย่างเดียว แต่ยังนำอินเนอร์นี้ไปใช้ในการแสดงโชว์ผลงานของตัวเองในบางโอกาสด้วย

 

  1. ศิลปินหญิงต่างประเทศที่มีไลฟ์สไตล์และผลงานแปลก แหวกแนว : เช่น เลดี กาก้า, เทเลอร์ สวิฟต์, ไมลีย์ ไซรัส, เอมี ไวท์เฮ้าส์, นิกกี้ ไมนาจ ล้วนแต่มีผลงานที่ค่อนข้างสร้างสรรค์ กล้าที่จะแตกต่างเพื่อโดดเด่นโดยไม่อายใคร LGBTส่วนหนึ่งที่ติดตามผลงานของพวกเธอ ล้วนแต่ชอบไอเดียที่แสนจะบ้า เพราะอย่างน้อยก็เข้ากันดีกับไลฟ์สไตล์ของLGBTที่ชอบความเป็นอิสระ ไม่ชอบที่จะอยู่ในกรอบของความเป็นชายหรือความเป็นหญิง และกรอบของขนบธรรมเนียมใด ๆ ให้อึดอัดใจ

 

  1. ศิลปินหญิงระดับdivaเมืองไทย : ถ้าศิลปินต่างประเทศเข้าถึงยากเกินไป ก็ลองมองศิลปินในบ้านเราอย่าง มาลีวัลย์ เจมิน่า, มาช่า วัฒนพานิช, ใหม่ เจริญปุระ, คริสติน่า อากีล่า, แอม เสาวลักษณ์, เจินเจิน บุญสูงเนิน, นันทิดา แก้วบัวสาย ฯลฯ ล้วนแต่เป็นศิลปินที่มีผลงานมายาวนาน LGBTส่วนใหญ่ก็เติบโตมากับบทเพลงของพวกเธอเหล่านี้ ด้วยมาตรฐานเสียงร้องที่ค่อนข้างถึงใจถึงอารมณ์ ประกอบกับความครีเอทที่มีมาตั้งแต่สมัยแรก ๆ ที่ออกเทป จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดที่ชาวLGBTจะนับถือว่านี่แหละคือผู้บุกเบิกความเก๋ในยุคสมัยก่อน

 

  1. นางงาม : การประกวดนางงามแต่ละเวทีมักมีเรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังที่น่าสนใจกว่าความสวยเสมอ เช่น การตอบคำถามที่ฉลาด, การครีเอทโชว์และชุด, เส้นสายในการแข่งขันแย่งชิงมงกุฎ, การสะสมโปรไฟล์ ซึ่งโดยรวมก็เหมือนกับละครเรื่องหนึ่งที่แซ่บ ดุเด็ดเผ็ดร้อน และสัมผัสได้ว่ามันเป็นเรื่องดราม่าที่มีอยู่จริง LGBTที่ติดตามผลงานนางงามจึงไม่เพียงแต่อยากได้ไอเดียความสวยงามเท่านั้น แต่ต้องการชีวิตที่แข็งแกร่งและมิตรภาพเป็นแรงบันดาลใจในชีวิตตัวเองด้วย

 

  1. เน็ตไอดอลที่เป็นLGBTด้วยกัน : ถึงจะเป็นแค่คนธรรมดาไม่ถึงขั้นเป็นศิลปินเบอร์ใหญ่ของประเทศก็เป็นที่น่าสนใจติดตามได้ เพราะพวกเขาเข้าถึงได้ง่ายสุด ไม่ต้องตีความซับซ้อนว่าขณะนั้นพวกเขากำลังรักษาภาพพจน์ศิลปินหรืออยู่ในโหมดส่วนตัวอยู่ การติดตามใครสักคนที่เป็นเน็ตไอดอลLGBTก็เหมือนกับการทำความรู้จักกับเพื่อนคนหนึ่งที่มีความคิดเหมือนกันแล้วนำมาเปรียบเทียบกับชีวิตตัวเองว่า มีอะไรที่ดีหรือต่าง มีอะไรที่คล้ายกันบ้าง

 

  1. พี่อ้อย-พี่ฉอด Clubfriday : นอกจากเพื่อนที่คอยให้คำปรึกษาเวลาที่มีความรัก ก็มีสองสาวที่เสมือนพี่สาวที่อบอุ่นนี้คอยให้คำปรึกษา, ให้บทเรียนจากบทเรียนคนอื่น และให้คำปลอบใจได้ดีไม่แพ้กัน รายการโปรดของชาวLGBTในคืนวันศุกร์ถ้าไม่นับละครหรือซีรีย์ ก็ต้องเป็นรายการวิทยุอย่าง Club Friday อย่างไม่น่าสงสัย

 

  1. คนธรรมดาที่อยู่ใกล้ตัว : สุดท้ายแล้ว คนเราก็ต้องมีใครสักคนที่อยู่ใกล้ตัวไว้เป็นที่พึ่งค่ะ เช่น พ่อ, แม่, พี่น้อง, เพื่อนที่เรียนด้วยกัน, เพื่อนLGBTด้วยกัน ไม่แน่นะคะว่าคุณอาจเป็นคนสำคัญของLGBTอยู่ก็ได้ ลองถามพวกเขาดูสิคะ : )
About thailgbt 52 Articles
พูดคุยเกี่ยวกับชาวLGBTบ้านเราแบบง่าย ๆ สบาย ๆ อ่านเข้าใจง่าย ศัพท์ไม่ยาก ไม่วิชาการเกินไป แชร์จากประสบการณ์บ้าง จากสื่อที่รู้เห็นมาบ้าง

2 Comments

  1. จะเข้ามาตอบว่า Ellen DeGeneres ปรากฎว่ามีคนชิงตัดหน้าไปแล้ว555

    LGBTทั่วโลกน่าจะรู้จักกันหมด Ellenเป็นคนแรกที่กล้าเอาบทLGBTขึ้นมาเป็นตัวละครหลักบนละครทีวีในปี1997 (เป็นความเปลี่ยนแปลงที่บุกเบิกให้มีWill and Graceเกิดขึ้นได้ตามมา) ตอนนั้นนิตยสารTimesเอาเอลเลนขึ้นปก Oprah Winfreyเชิญไปสัมภาษณ์ มีกลุ่มคลั่งศาสนาคริสต์ขู่วางระเบิดกองถ่าย มีการถือป้ายประท้วงจากกลุ่มคลั่งศาสนา บาทหลวงคนนึงเรียกEllenว่า “degenerate” (ซึ่งเอลเลนตอบนักข่าวว่าเพื่อนสมัยประถมก็เคยเล่นมุกล้อนามสกุลเค้าแบบนี้เลยไม่รู้สึกอะไร แต่แปลกใจว่าคนที่เป็นบาทหลวงจะพูดอะไรแบบนี้) episodeที่Ellen come outสองตอน มีดารารับเชิญขอเข้ามาร่วมเข้าฉากเป็นตัวประกอบด้วยคับคั่ง ตอนที่episodeแรกฉาย ในสารคดีเล่าว่าหลายเมืองเซนเซอร์ไม่นำออกอากาศ คนหลายกลุ่มหลายองค์กรจึงจัดปาร์ตี้ฉายกันเอง sitcomของEllen episodeนั้นมียอดวิวสูงเป็นประวัติการณ์ ในคืนที่ออกฉายถนนในนิวยอร์คทุกครั้งที่มีการพักโฆษณาจะได้ยินเสียงปรบมือและเสียงเชียร์ดังออกมา หลังจากนั้นไม่ถึงปีสถานีก็เริ่มติดเรตเซนเซอร์(ทั้งๆที่ไม่มีฉากอะไรที่ติดเรทเลย) สปอนเซอร์เช่นJ C Pennyถอนตัวเพราะไม่อยากเสียภาพลักษณ์ สถานีถอดรายการเอลเลนออก เอลเลนตกงานอยู่สามปี จนแทบจะไม่มีเงินจ่ายค่าบ้าน แต่สุดท้ายเอลเลนก็กลับมาได้และมีรายการเป็นของตัวเองอีกครั้ง รายการใหม่ของเอลเลนได้รางวัลเอมมี่รัวๆแบบไม่แบ่งใครอยู่หลายปีซ้อน ตอนนี้เอลเลนดังและรวยสุดๆ กลายเป็นผู้มีอิทธิพลอันดับต้นๆในฮอลลีวูด สาเหตุก็เพราะเพราะเค้าเป็นคนที่นิสัยดีมากๆจนมีแต่คนรักทั้งวงการ จากปี1997ถึง2017เอลเลนไม่เคยหยุดที่จะเรียกร้องสิทธิให้LGBT บุคคลสำคัญๆเช่นบารัคและมิเชลโอบามาก็สนิทกับเอลเลน ทำให้การรณรงค์เรื่องสิทธิของLGBTในเรื่องการนำเสนอของสื่อและในกฏหมายมีผลคืบหน้ามากมายในช่วง20ปีนี้ ขนาดที่ว่าห้างJC Pennyที่เคยถอนโฆษณาจากsitcomเอลเลนในปี1997กลับมาขอให้เอลเลนเป็นพรีเซนเตอร์หลักของห้างประมาณราวๆปี2012 ขำมากๆคือมีกลุ่มต่อต้านLGBTตั้งเพจเฟสบุคชื่อว่าmillion moms against Ellen & JC Pennyหรืออะไรซักอย่าง มีคนฟอลโลวหลักหมื่นหรือแสนคนนี่แหละ ซึ่งคราวนี้ JC Penny ไม่สนใจเพราะคนรักเอลเลนมีเป็นหลักพันล้านทั่วโลก และอีกเช่นเคย เอลเลนพูดถึงเพจmillion momsได้น่าประทับใจมากกกก classyสุดๆ JC Pennyและห้างอื่นๆออกคลิปโฆษณา saleวันพ่อ มีพ่อในคลิปสองคน และsaleวันแม่ มีแม่ในคลิปสองคน มันคือปรากฏการณ์ที่น่าประทับใจ จากวันที่เอลเลนไม่สามารถจับมือแฟนในที่สาธารณะได้ในปี1997 จนกระทั่งวันที่ทุกคนสามารถแต่งงานได้ถูกกฏหมายทั่วอเมริกาในปี2015 เป็นความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่inspiringสำหรับเราให้เจริญรอยตาม ที่สำคัญที่สุดEllenเป็นคนที่วางตัวดีมาก โดนกลุ่มhomophobic bullyยังไงEllenสามารถตอบได้แบบมั่นคงแต่ไม่ว่าร้ายอีกฝ่าย รายการเอลเลนมีคนติดตามทุกกลุ่มทั้งกลุ่มที่เคยไม่ชอบlgbtก็เปลี่ยนทัศนคติคนดูได้หลายคน ติดตามมาสิบปีแล้วไม่ผิดหวังในไอดอลคนนี้ แถมได้ภาษาอังกฤษสำนวนที่ใช้จริงๆในชีวิตประจำวันก็เพราะรายการEllenเลย

    ส่วนคนอื่นๆตอนนี้ติดตามTig Notaro ชอบสารคดีชีวิตของTigในNetflix กับ One Mississippi บนAmazon Primeมากๆ ชีวิตของTigน่าสนใจ มุมมองชีวิตก็แปลกใหม่ดี สามารถมองเรื่องแย่ๆเป็นมุกตลกได้ และยังมีเรื่องราวที่Tigได้เจอกับภรรยาของเค้า โรแมนติกมากๆๆฟินสุดๆในทั้ง2โชว์นี้ ปล.ตอนนี้สองคนนี้มีลูกแล้วด้วย

Leave a Reply